รอมฎอน, หัวใจ และชีวิต

ขออวยพรวันอีดก่อนละกัน

อีด มุบาร็อก (สุขสันต์วันอีด)

ตะก็อบบะลัลลอฮุมินนา วะมินกุม(ขออัลลอฮฺทรงตอบรับการงานของเราและท่าน)

……………………..

รอมฎอนนี้มีอะไรต่างๆ เกิดขึ้นกับตัวผมมากมายเลยทีเดียว

ช่วงแรกผมถือศีลอดที่บ้าน กับพ่อแม่ ได้ละศีลอดกับท่าน ช่วยงานท่าน ทำหน้าที่ลูก อยู่ให้ท่านได้ชื่นใจ

ช่วงกลางๆ เดือน เดินทางไปมาเลเซีย เพื่อจัดการ finalise วิทยานิพนธ์จนเสร็จและส่งต้นฉบับให้อาจารย์ที่ปรึกษาอ่านก่อนรอบหนึ่ง แล้วจึงกลับมาบ้าน

ช่วงท้ายๆ ได้ถือโอกาสไป อิอฺติกาฟ ที่ วิทยาลัยอิสลามศึกษา มหาวิทยาลัยสงขานครินทร์ ปัตตานี จริงๆ การอิอฺติกาฟ คือการปลีกตัวเองออกจากกิจการต่างๆ อันแสนวุ่นวายของโลกใบนี้ ไปพำนักในมัสญิด เพื่อทำการเคารพภักดีและทำความดีต่างๆ ในมัสญิด ในช่วงสิบวันและคืนสุดท้ายของเดือนรอมฎอน

แต่ผมไปจริงๆ ก็ 5 คืนสุดท้ายแล้ว แต่5คืนที่ว่านี้ กลับเป็น 5 คืนที่ได้คิด ใคร่ครวญ ชีวิตมากมายเหลือเกิน

มัสญิดที่ วิทยาลัยอิสลามศึกษา (ต่อไปนี้จะเรียกว่า วอศ.) เป็นมัสญิดเล็กๆ ในตัวมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เรียกว่ากระทัดรัด, สะดวก และดูกันเองๆ ดี

ทาง วอศ. จัดโปรแกรมการอิอฺติกาฟมาหลายปีแล้ว แต่คนเข้าร่วมก็ยังประปราย ตอนที่ผมไป โปรแกรมก็เริ่มไปได้3วันแ้ล้ว มาทีหลัง แต่ก็ไม่ยอมพลาดการแสวงหาลัยละตุลกอดร์

ที่นี่ มีอาจารย์ นักศึกษา และบุคลากร เข้าร่วมกิจกรรมกัน พอสมควร นักศึกษาส่วนใหญ่จะมากันหลังเที่ยงคืน เนื่องจากอยู่ช่วงเตรียมตัวสอบ อาจารย์ก็เข้าๆ ออก เพราะต้องออกข้อสอบกัน มีอยู่ สองสามคนที่อยู่ประจำทั้งวันและคืน

กิจกรรมหลักๆ ที่ได้ร่วมก็มี การละศีลอดและรับประทานอาหารร่วมกันในตอนเย็น ละหมาดตะรอวีอฺ 8 รอกอัต ตัฟซีรซูเราะฮฺอัชชูรอตอนกลางคืน พักผ่อน ร่วมละหมาดกิยามุลรอมฎอนอีกช่วง4รอกอัต+วิตร3รอกอัต ตอนตี 3 รับประทานอาหารซะโฮรฺร่วมกัน ฮัลเกาะฮฺกุรอานหลังละหมาดซุบฮฺ+ตัจวีด อัซการ+ละหมาดดุฮา พักผ่อน ตัฟซีรอัชชูรอหลังดุฮฺริ นอกเหนือจากนั้นก็เป็นการอิบาดะฮฺส่วนตัว

ตัวกิจกรรมที่หลวมๆ และการบริการด้านอาหารง่ายๆ ของที่นี่ ทำให้่ผมและชาวอิอฺติกาฟทั้งหลาย ไปใช้เวลาไปกับการอิบาดะฮฺและการใคร่ครวญตัวเองมากมาย

วันสุดท้ายของการอิอฺติกาฟ ก็มีการเปิดใจและให้ข้อคิดก่อนกลับ มีอาจารย์ท่านหนึ่งกล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่ได้รับจากการอิอฺติกาฟก็คือพลังของญามาอะฮฺ การอิบาดะฮฺปกติทำคนเดียวก็ได้ แต่หากเรามาคิดดูว่าหากเราทำเป็นญามาอะฮฺ เป็นหมู่คณะ มันจะมีพลัง พลังที่จะช่วยให้สมาชิกทำไปได้ตลอดรอดฝั่ง และเข้มแข็ง นอกจากนี้การอิอฺติกาฟยังเป็นโรงเรียนฝึกตัวเราให้รับมือกับช่วงเวลาหลังเลิกเีรียนอันยาวนานที่มีสิ่งยั่วยุมากมายรอคอยอยู่

ผมพกหนังสือไปด้วยสองสามเล่ม ตั้งใจจะอ่านสลับกับการอ่านกุรอานในช่วงกลางวัน หนึ่งในนั้นคือ หนังสือชื่อว่า Essays on the Heart เป็นงานเขียนของอิบนุตัยมิยะฮฺ ที่บิลาล ฟิลลิปส์ หยิบยกมาแปลและเรียบเรียงเป็นภาษาอังกฤษ

งานของอิบนุตัยมิยะฮฺ เป็นงานเขียนที่สั้น คำน้อย คม และกระทบจิตใจอย่างแรง ผู้แปลเลยมีการทำfootnoteอ้างอิงไว้ยาวมากในแต่ละบท ทำให้การอรรถธิบายยาวกว่างานเขียนจริงๆ เสียอีก แต่หนังสือเล่มนี้ดีมากๆ แต่หากเอามาแปล ไม่รู้จะแปลอย่างไรให้รักษาความสุดยอดของงานไว้ได้ ผมเลยคิดไม่ออกเลยว่าจะแปลยังไง

หนังสือเล่มนี้พูดถึงหัวใจเป็นการเฉพาะ เรียกว่าคนที่อ่านรู้สึกราวกับว่าได้เปิดหัวใจของตนออกมา ตรวจสอบ ใคร่ครวญ ค้นซอกหลืบต่างๆว่ามีอะไรต่อมิอะไรซ่อนอยุ่บ้างหรือไม่ ได้ขัดเกลา ได้ชำระล้างก้อนเนื้อที่เป็นนายของอวัยวะทั้งหลายเลยทีเดียว (อยากอ่านละสิ) หากเล่าคงเล่าได้ไม่ครบ เอาเป็นว่าหาอ่านเอาเองละกัน

จากการอิอฺติกาฟ และหนังสือเล่มนี้ ทำให้ผมได้ค้นหัวใจตัวเองในค่ำคืนหนึ่งและพบว่ามันมีความรักในดุนยาทั้งที่เห็นตัวชัดๆ และที่แอบซ่อนอยู่ มากมายเลยทีเดียว ดังนั้นผมจึงจับมันโยนทิ้งไปทีละตัวสองตัว บางตัวดื้อก็ต้องใช้แรงเยอะหน่อย เพราะมันอยู่มานาน บางครั้งลำพังตัวเราเองก็ทำความสะอาดไม่หมดหรอก ต้องให้ผู้สร้างมันช่วย การได้ละหมาด วิงวอนขอพระองค์ด้วยน้ำตาที่สำนึกผิดช่วยได้ น้ำตาเหล่านั้นจะช่วยล้างการหมักหมมของสิ่งต่างๆ ในหัวใจออกไปเรื่อยๆ หากแต่ผู้สร้างหัวใจดวงนี้มาเท่านั้นแหละ ที่จะรักษามันได้

เมื่อหัวใจถูกชำระล้าง เราจะรู้สึกได้เลยว่า มันสบายใจ มันโล่งใจ รู้สึกว่าดุนยามันเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย ความรักในอาคิเราะฮฺต่างหากเล่าที่ต้องเอามาใส่ไว้เต็มหัวใจ การรำลึกถึงอัลลอฮฺต่างหากเล่าที่เป็นหน้าที่ที่หัวใจถูกสร้างมา

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เมื่อก้าวออกจากโรงเรียนอิอฺติกาฟ เราก็ต้องพึงระวังรักษาหัวใจให้ดี เพราะนอกจากมารร้ายชัยตอนจะเข้ามาหลอกล่อเราแล้ว เจ้าดุนยาทั้งหลายก็จะพลอยกลับมาเยี่ยมเยียนหัวใจเราอีกเป็นแน่

รอมฎอน นอกจากเป็นโรงเรียนขัดเกลาจิตใจแล้ว ยังเป็นจุดเปลี่ยนหลายๆ อย่างให้กับชีวิตของเราๆ มากมาย

ทุกๆ รอมฎอนทำให้ผมได้ทบทวนชีวิตและแผนการใช้ชีวิตเสมอๆ

รอมฎอนนี้ก็คงมีอะไรหลายๆ อย่างทำให้ชีวิตเปลี่ยนไป แต่ไม่มีอะไรให้ต้องกังวล เพราะริสกีของเราอัลลอฮฺจัดการให้หมดแล้ว ห่วงอาคิเราะฮฺก็พอ ชีวิตในดุนยามันสั้นจะตายไป ทำดุนยาให้เป็นประโยชน์กับอาคิเราะฮฺดีกว่า จะได้ใช้ดุนยาแบบไม่เสียดาย

สุขสันต์วันอีด อีกครั้งครับ

7 คิดบน “รอมฎอน, หัวใจ และชีวิต

  1. ลืมไปว่า .. อีดมุบาร๊อก
    มอัฟกันมั้ง น่ะน้องน่ะ .. ทั้งทั้ทำไปรู้ตัวและไม่รู้ตัวก็ตาม

    ตะก๊อบบะลัลลอฮฺ มินน่า ว่ามินกุม … ^^

  2. น่าอิจฉา…กับความรู้สึกที่ได้ลิ้มรส..

    โปร่ง โล่ง เบา สบายใจ จริงๆ..

    ขออัลลอฮฺทรงตอบรับการงานที่ดีของเราด้วย…

  3. U r so right… many times we cry, share, or complaint on hardship in our life with human and forget to cry to our Creator, the Lord of Al-Alameen. HE is always waiting to help us!

    “The Lord of Al-Alameen” : only express this word, EVERYTHING in this world including the TINY ME will be sooo small and nothing!

    Insha Allah one day I will read that book. Ibn Taimiyah is one of our great scholars 🙂

ส่งความเห็นที่ Love virtue! ยกเลิกการตอบ